วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2556

วิธีการสอน

วิธีการสอนแบบบรรยาย  teaching  by Lecture  

สามารถเรียนรู้ได้ที่นี่




วิธีการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองและเกมส์  Teaching  by  Simulation and  Games

สามารถเรียนรู้ได้ที่นี่

สามารถเรียนรู้ได้ที่นี่

สามารถเรียนรู้ได้ที่นี่
วิธีสอนโดยใช้สถานการณ์จำลอง (Simulation Method)

1.  แนวคิด
              
การสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองเป็นการสอนที่อาศัยการจำลองสถานการณ์จริงมากที่สุดโดยการยกสถานการณ์นั้นมาไว้ในชั้นเรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้และความเข้าใจว่าในความเป็นจริงเรื่อง ๆ นั้นเป็นอย่างไร
2.  ลักษณะสำคัญ
              
การสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองเป็นการจัดสภาพแวดล้อมเลียนแบบของจริงหรือให้ใกล้เคียงกับสภาพของจริง แล้วให้ผู้เรียนได้เข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ เพื่อฝึกแก้ปัญหาและการตัดสินใจ
3.  วัตถุประสงค์
     1)  เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้การแก้ปัญหาในสถานการณ์ใกล้เคียงของจริงมากที่สุด
     2)  เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจว่าในสถานการณ์จริง ๆ นั้นเป็นอย่างไร และเข้าใจในสถาน
การณ์เหล่านั้นหากเกิดขึ้นในชีวิตจริง
4.  จำนวนผู้เรียน
               การสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองนั้นจะใช้กับผู้เรียนจำนวนเท่าใดก็ได้ ตามสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่กำหนดขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายของบทเรียนและเวลาที่มีอยู่ ซึ่งถ้าผู้เรียนมีมากก็ควรจะกำหนดว่านักเรียนกลุ่มใดจะเป็นผู้เข้าสู่สถานการณ์จำลอง กลุ่มที่เหลือก็เป็นผู้สังเกตการณ์และผู้ดู
5.  ระยะเวลา
               การสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองจะใช้ระยะเวลาเท่าใดอยู่ที่เนื้อหาและวัตถุประสงค์ของบทเรียน
6.  ลักษณะห้องเรียน
               การสอนโดยสถานการณ์จำลองจะแตกต่างจากบทบาทสมมุติ เพราะบทบาทสมมุติเป็นเพียงบทบาทของผู้แสดง แต่สถานการณ์จำลองต้องมีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมเหมือนของจริงมากที่สุดดังนั้นอาจจะต้องสร้างสถานการณ์ เหตุการณ์ สถานที่และจำลองให้ใกล้เคียงของจริง อาจจะต้องดัดแปลงห้องเรียนให้เป็นสถานการณ์ที่ต้องการ
7.  ลักษณะเนื้อหา
               การสอนแบบสถานการณ์จำลอง สามารถใช้จัดกิจกรรมได้ทุกวิชา เช่น วิชาสังคมศึกษา วิชาภาษาไทย วิชาภาษาอังกฤษ หรือประสบการณ์ในวิชาวิทยาศาสตร์ แม้แต่วิชาคณิตศาสตร์ ทั้งนี้อยู่ที่การวางแผนและการออกแบบของผู้สอน
8.  บทบาทผู้สอน
                     1)  เป็นผู้เตรียมการสอนสถานการณ์จำลอง โดยสร้างขึ้นให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของบทเรียน หรือผู้สอนอาจจะพาผู้เรียนไปในสถานการณ์จำลองแท้ก็ได้
                     2)  ผู้สอนกับผู้เรียนอาจจะร่วมกันกำหนดสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการพูดคุย ผู้สอนกับผู้เรียนอาจจะร่วมกันกำหนดซักถาม อภิปราย
                     3)  ผู้สอนกำหนดขั้นตอนและบทบาทของผู้แสดงทั้งหมด และอาจจะต้องซักซ้อม ทำความเข้าใจกับผู้แสดงก่อนการสร้างสถานการณ์จำลอง
9.  บทบาทผู้เรียน
      1)  ผู้เรียนอาจจะร่วมกับผู้สอนเป็นผู้กำหนดสถานการณ์จำลองและกำหนดบทบาท
ของผู้เรียนแต่ละคน
      2)  ร่วมกันสร้างและแสดงบทบาทในสถานการณ์จำลองนั้น
      3)  ผู้เรียนเป็นผู้วิเคราะห์สถานการณ์จำลอง สรุปข้อคิดและสิ่งที่ได้จากสถานการณ์
จำลองนั้น 
10. ขั้นตอนการสอน
                     10.1 ขั้นเตรียม
                    
ผู้สอนแจ้งวัตถุประสงค์ให้ผู้เรียนได้ทราบและช่วยกันกำหนดประเด็นและสถานการณ์ที่จะจำลองขึ้น กำหนดกิจกรรมที่จะปฏิบัติ พร้อมทั้งกำหนดบทบาทของผู้เรียนทั้งหมด
              
                     10.2 ขั้นนำเสนอ
                    
ผู้เรียนจะเข้าสู่สถานการณ์และกิจกรรมตามที่กำหนดไว้ โดยมีผู้สอนคอยควบคุมดูแลทั้งนี้ให้ผู้เรียนอยู่ในกติกาตามที่กำหนดไว้ ในขณะที่ดำเนินกิจกรรมก็ต้องมีการบันทึกสถานการณ์ไว้ตลอดเวลา
                     10.3 ขั้นสรุป
              
      ผู้สอนและผู้เรียนช่วยกันสรุปสิ่งที่ได้จากสถานการณ์จำลองนั้น โดยการวิเคราะห์เหตุการณ์วิเคราะห์กระบวนการและแนวคิดที่ได้ พร้อมกับสรุปว่าจะนำไปใช้ชีวิตจริงต่อไปได้อย่างไร
11. สื่อการสอนเมื่อใช้สถานการณ์จำลอง
              
การสอนแบบสถานการณ์จำลองนั้นอาจจะต้องใช้สื่อหลากหลายชนิดด้วยกัน เช่น ผู้แสดงของจริง ของจำลองอื่น ๆ ที่ใช้ในการสร้างสถานการณ์จำลองนั้น
12. การวัดและประเมินผล
              
การสร้างสถานการณ์จำลองนั้น ผู้สอนจำเป็นที่จะต้องวัดและประเมินว่ากิจกรรมที่ดำเนินไปบรรลุผลเพียงใด ผู้เรียนมีส่วนร่วมมากน้อยเพียงใด ผู้เรียนได้อะไร ในขั้นวิเคราะห์และสรุปนั้นผลออกมาเป็นอย่างไร
13. ข้อดีและข้อจำกัด
      ข้อดี
     1) เป็นกระบวนการที่ทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สถานการณ์จริง ๆ ได้มากที่สุด
     2) เป็นการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและได้กระทำ รวมทั้งได้รับประสบ
การณ์ที่หลากหลายด้วย
    3) ทำให้ผู้เรียนได้ใช้ทักษะหลาย ๆ ทางและทำงานร่วมกันผู้อื่นได้
    4) สร้างบรรยากาศสนุกสนาน ทำให้ผู้เรียนเพลิดเพลิน
     ข้อจำกัด
     1) การสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองจะต้องเตรียมการเป็นอย่างดี หากขาดการเตรียมการจะทำให้กิจกรรมมีอุปสรรค
      2) บางครั้งการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองต้องใช้เวลามาก   
      3) ผู้สอนต้องมีประสบการณ์ในสถานการณ์จำลองนั้นมาก เพราะหากผู้สอนขาด
ประสบการณ์ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้หรือจะได้ผลไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนด
      4) การสอนโดยใช้สถานการณ์จำลอง จะต้องได้รับความร่วมมือจากผู้เรียน หากผู้
เรียนไม่ร่วมมือก็จะทำให้กิจกรรมติดขัดไม่บรรลุผลตามที่วางไว้
14. การปรับใช้การสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองเพื่อเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
      1) ในการทำกิจกรรมสถานการณ์จำลองนั้น ยิ่งให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมมากเท่าใดก็ตรงกับแนวคิดการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ
      2) การเตรียมการดีก็จะส่งผลให้กิจกรรมสถานการณ์จำลองบรรลุผลดี
      3) ในขั้นวิเคราะห์และขั้นสรุป เป็นขั้นที่สำคัญที่สุด ในกิจกรรมส่วนนี้ควรให้ผู้เรียนมี
บทบาทมากที่สุด ทำให้ผู้เรียนได้ประสบการณ์มากยิ่งขึ้น



การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้เกม
ในการปฏิรูปการเรียนรู้นั้น  ผู้สอนเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการจัดการเรียนการสอนอย่างหลากหลายให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้   มีความรู้   ความเข้าใจในเรื่องที่เรียน   และมีความเชื่อว่าผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้หมดทุกคนตามประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมของแต่ละบุคคล  นักการศึกษา          โฮวาร์ด การ์ดเนอร์ (http://images.somnuck.multiply.com/attachment10/ STXWKAOKCGWAACT RUOL/%EO….)   ได้กล่าวว่า   ทุกคนมีความสามารถที่หลากหลาย   (Multiple intelligences)  ใน 8 ด้าน คือ   ด้านภาษา   ด้านการใช้เหตุผล   ด้านมิติพันธ์   ด้านร่างกาย   ด้านการเคลื่อนไหว   ด้านดนตรี   ด้านมนุษยสัมพันธ์  ด้านความเข้าใจในตนเอง  และด้านความเข้าใจในธรรมชาติ  ดังนั้น  ในการจัดการเรียนการสอน  ต้องยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ  สามารถเรียนรู้ได้ตามความแตกต่างของบุคคล

ความหมายการสอนโดยใช้เกม
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้เกม  คือ  เกมการศึกษา  เป็นวิธีการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  เป็นเกมที่มีลักษณะการเล่นเพื่อการเรียนรู้  “Play to learning”  มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ในขณะหรือหลังจากการเล่นเกม  เรียนไปด้วยและก็สนุกไปด้วยพร้อมกัน ทำให้ผู้เรียนมีการเรียนรู้อย่างมีความหมาย (สุชาติ แสนพิช http://researchers:in.th/ block/ Seampich/127)
พระมหาธราบุญ  คูจินดา  (http://www.pty.ac.th/ptyweb2009/download/Jeopardy Game Research.doc)  กล่าวว่า  เกมประกอบการสอน  หมายถึง  การนำเอาจุดประสงค์ใด ๆ ของการเรียนรู้ตามหลักสูตรมาประกอบขึ้นเป็นการเล่น  ผู้เล่นจะเล่นเกมไปตามกติกาที่กำหนด  ซึ่งจะต้องใช้ความรู้ในเนื้อหามามีส่วนร่วมในการเล่นด้วย
ทิศนา  แขมมณี  (2544 : 81 – 85)  กล่าวว่า  การเรียนรู้โดยใช้เกม  เป็นกระบวนการที่ผู้สอนใช้ในการช่วยให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด  โดยการให้นักศึกษาเล่นเกมตามกติกา  และนำเนื้อหาและข้อมูลของเกม พฤติกรรมการเล่น  วิธีการเล่น และผลของการเล่นเกมของนักศึกษามาใช้ในการสรุปการเรียนรู้โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้นักศึกษาได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ  อย่างสนุกสนานและท้าทายความสามารถ  โดยนักศึกษาเป็นผู้เล่นเอง  ทำให้ได้ประสบการณ์ตรง  เป็นวิธีที่เปิดโอกาสให้นักศึกษามีส่วนร่วมสูง
คณาภรณ์  รัศมีมารีย์  (http://www.itie.org/eqi/modules.php?name=Journal&file= display&jid=683) กล่าวว่า เกมที่นำมาใช้ในการสอนส่วนใหญ่จะเป็นเกมที่เรียกว่า เกมการศึกษา เป็นเกมที่มีวัตถุประสงค์ให้ผู้เล่นเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้  มิใช่เล่นเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น
จึงสรุปได้ว่า  การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้เกมมีประโยชน์ช่วยให้นิสิต นักศึกษาเกิดการเรียนรู้ควบคู่ไปกับความสนุกสนาน  เกิดความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งที่เรียน  และเป็นการพัฒนากระบวนการคิดของผู้เรียนไปโดยที่ผู้เรียนไม่รู้ตัว  รวมทั้งส่งเสริมกระบวนการทำงานและอยู่ร่วมกัน
เทคนิคการสอนโดยใช้เกม
การจัดการเรียนการสอนโดยใช้เกมให้มีประสิทธิภาพ  ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด  มีดังนี้
1.  การเลือกและนำเสนอเกม ผู้สอนต้องสร้างขึ้นให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของเนื้อหาสาระของการสอน  ถ้านำเกมของผู้อื่นที่สร้าง  ต้องนำมาปรับ  ดัดแปลงให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ซึ่งเกมการศึกษามี 3 ประเภท  คือ
1.1  เกมแบบไม่มีการแข่งขัน  เช่น  เกมการสื่อสาร  เกมการตอบคำถาม เป็นต้น
1.2  เกมแบบแข่งขัน   มีผู้แพ้   ผู้ชนะ     เกมส่วนใหญ่จะเป็นเกมแบบนี้เพราะการแข่งขันช่วยให้การเล่นเพิ่มความสนุกสนาน
1.3  เกมจำลองสถานการณ์  เป็นเกมที่จำลองความเป็นจริง  สถานการณ์จริง เกมแบบนี้มี 2 ลักษณะ  คือ
1.3.1  การจำลองความเป็นจริงลงมาเล่นในกระดานหรือบอร์ด  เช่น  เกมเศรษฐี  เกมมลภาวะ  เกมแก้ปัญหาความขัดแย้ง  เป็นต้น
1.3.2  การจำลองสถานการณ์และบทบาทให้เหมือนความเป็นจริง    โดยผู้เล่นจะต้องลงไปเล่นจริง
สุชาติ  แสนพิช  (http://researchers:in.th/block/Seampich/127กล่าวว่า  รูปแบบเกมที่จะนำมาใช้ต้องคำนึงถึงจุดประสงค์การเรียนรู้เป็นหลัก  ดังนี้
1.  ความจำ ความคงทนในการจำชุดของเนื้อหา เช่น เกมแบบฝึกหัด  เกม Puzzle เป็นต้น
2.  ทักษะการกระทำ   มีเรื่องของสถานการณ์และการกระทำ  การเลียนแบบ  เป็นเกมแบบ Simulation  ต่าง ๆ  เช่น เกมยิง  เกมขับรถ  เป็นต้น
3.  ประยุกต์ความคิดรวบยอดและกฎข้อบังคับต่าง ๆ     และขั้นตอนวิธีการในการปฏิบัติ  มีเงื่อนไขในการกระทำ  เช่น  เกมกีฬา, Action
4.  การตัดสินใจ การแก้ปัญหา เกมแบบเป็นเรื่องราว สามารถแสดงผลการกระทำได้ทันที (Real Time)  เช่น  เกมวางแผน  เกมผจญภัย  เกมเล่าเรื่องราวแล้วให้เลือก
5.  การอยู่ร่วมกับสังคม   เช่น   เกมเกี่ยวกับการสื่อสาร   เกมเล่าเรื่องแล้วให้เลือก  เกมวางแผน
จึงสรุปได้ว่า  การสอนโดยใช้เกมต้องเลือกใช้เกมหรือสร้างเกมให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของการสอน  เพื่อฝึกฝนทักษะ  เพื่อเรียนรู้เนื้อหาสาระ  หรือเพื่อเรียนรู้ความจริงของสถานการณ์  ผู้สอนต้องสังเกตให้ชัดเจนก่อนสร้างเกม  หรือก่อนเลือกเกมผู้อื่นมาปรับใช้
2.  การชี้แจงวิธีการเล่นและกติกาการเล่น
ผู้สอนควรจัดลำดับขั้นตอนและให้รายละเอียดที่ชัดเจน  กติกาการเล่นเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเล่นเกม  เพราะกติกานี้จะตั้งขึ้นเพื่อควบคุมให้การเล่นเป็นไปตามวัตถุประสงค์  และดูแลให้ผู้เล่นปฏิบัติตามกติกาของการเล่นอย่างเคร่งครัด
3.  การเล่นเกม
ก่อนการเล่น ผู้สอนควรจัดสถานที่ของการเล่นให้อยู่ในสภาพที่เอื้อต่อการเล่น   การเล่นควรเป็นไปตามลำดับขั้นตอน  และต้องคอยควบคุมเวลาในการเล่น
ขณะกำลังเล่น ผู้สอนควรติดตามสังเกตพฤติกรรมการเล่นของผู้เรียนอย่างใกล้ชิด  และควรบันทึกข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน  เพื่อนำไปใช้ในการอภิปรายหลังการเล่น
4.  การอภิปรายหลังการเล่น  ขั้นตอนนี้มีความสำคัญมาก  หากขาดขั้นตอนนี้การเล่นเกมก็คงไม่ใช่วิธีสอน  การอภิปรายหลังการเล่นเกมควรมุ่งประเด็นไปตามจุดประสงค์ของการสอนเพื่ออะไร  ซึ่งอาจแบ่งการอภิปรายผลหลังการเล่นเกมตามจุดประสงค์ของการเล่นเกมได้  ดังนี้
1.  เพื่อฝึกฝนเทคนิคหรือทักษะต่าง ๆ  ที่ต้องการให้ผู้เรียน  การอภิปรายควรมุ่งไปที่ทักษะนั้นว่า  ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะนั้นเพียงใด  ประสบความสำเร็จตามต้องการหรือไม่  และจะมีวิธีใดที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น
2.  เพื่อเรียนรู้เนื้อหาสาระจากเกม    ควรอภิปรายในประเด็นที่ว่า    ผู้เรียนมีความเข้าใจในเนื้อหาสาระนั้นอย่างไร  ได้ความเข้าใจมาจากเล่นเกมตรงส่วนใด
3.  เพื่อเรียนรู้ความเป็นจริงของสถานการณ์ต่าง ๆ        ควรอภิปรายในประเด็นว่า  ผู้เรียนได้เรียนรู้ความจริงอะไรบ้าง  การเรียนรู้นั้นได้มาจากไหน อย่างไร  ผู้เรียนได้ตัดสินใจอะไรบ้าง  ทำไมจึงตัดสินใจเช่นนั้น  และการตัดสินใจให้ผลอย่างไร  ผลนั้นบอกความจริงอะไร  ผู้เรียนมีข้อสรุปอย่างไร  เพราะอะไรจึงสรุปอย่างนั้น  เป็นต้น
จึงกล่าวได้ว่า  จุดประสงค์การเรียนรู้ที่ต่างกัน  เกมที่ใช้ก็จะแตกต่างกันไปด้วย  ดังนั้นการเลือกใช้และพัฒนาเกม   จึงควรคำนึงถึงจุดประสงค์การเรียนรู้ควบคู่ไปกับรูปแบบเกมที่เหมาะสม    เพื่อให้ผู้เรียนรู้สึกสนุกไปพร้อมกับการเกิดการเรียนรู้
คณาภรณ์  รัศมีมารีย์  กล่าวว่า  การเรียนการสอนโดยใช้เกมนี้ต้องมีบทบาทของผู้สอน  ผู้เรียน  บรรยากาศการเรียนการสอน  และสื่อ  ดังนี้
การเตรียมบทบาทของผู้สอน
1.  ก่อนการใช้กิจกรรมเกม
1.1  ผู้สอนเตรียมเอกสารความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่จะสอน
1.2  ผู้สอนศึกษาเกี่ยวกับวิธีการเล่นเกม
1.3  ผู้สอนเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ  เท่ากับจำนวนนักศึกษา
2.  ระหว่างการเล่น
2.1  ผู้สอนแจกเอกสารความรู้และเกม
2.2  ผู้สอนอธิบายกติกา  และวิธีเล่นแก่ผู้เรียน
2.3  ให้กลุ่มผู้เรียนเล่นเกมในเวลาที่กำหนด
3.  หลังการใช้กิจกรรมเกม
3.1  ผู้สอนและนักศึกษาร่วมกันสรุปเนื้อหาความรู้ที่ได้จากการเล่นเกม
3.2  ผู้สอนประเมินตนเองในการใช้เทคนิคเกม
การเตรียมบทบาทของผู้เรียน
1.  ผู้สอนแบ่งกลุ่มของผู้เรียนให้สอดคล้องกับเกม
2.  ผู้เรียนศึกษาเอกสารความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่จะเรียน
3.  ผู้เรียนศึกษากติกาและวิธีการเล่นเกม
4.  ผู้เรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปเนื้อหาความรู้ที่ได้จากการเล่นเกม
บรรยากาศการเรียนการสอน
1.  สถานที่ที่ใช้เล่นเกม  ควรเป็นห้องที่สามารถจัดนักศึกษานั่งเป็นกลุ่มได้
2.  การเรียนเน้นนักศึกษาเป็นศูนย์กลาง  โดยผู้สอนเป็นเพียงผู้ชี้แนะ นิสิต นักศึกษาศึกษาเอกสารความรู้และเล่นเกม
3.  ในขณะเล่นเกมเพื่อเป็นการผ่อนคลาย  อาจเปิดเพลงเบา ๆ ได้
สื่อการเรียนรู้
1.  เอกสารความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่สอน (ใบงาน)
2.  อุปกรณ์เกี่ยวกับเกม  กติกา  และวิธีเล่น
จึงกล่าวได้ว่า  รูปแบบการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เกม  เป็นวิธีการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด  ช่วยให้บทเรียนน่าสนใจ  และจูงใจผู้เรียนให้สนใจเรียนรู้เพิ่มขึ้น  เกมอาจจำแนกเป็นเกมที่มีวัสดุประกอบ  เช่น เกมไพ่  เกมบิงโก  เกมอักษรไขว้  เกมกระดานต่าง ๆ  เป็นต้น  และเกมที่ไม่มีวัสดุประกอบ  เช่น เกมทายปัญหา  เกมใบ้คำ  เกมสถานการณ์จำลอง  เป็นต้น  ผู้สอนจึงควรเลือกเกมมาใช้ให้สอดคล้องกับเนื้อหาสาระที่สอน  จุดประสงค์และวัยของผู้เรียน
ข้อดีและข้อจำกัดของวิธีสอนโดยใช้เกม
พระมหาธราบุญ  คูจินดา  (http://www.pty.ac.th/ptyweb2009/download/Jeopardy gameReseach.docได้ทำการวิจัยเรื่อง  ประสิทธิผลการสอนทักษะการฟัง  พูด  อ่าน  และเขียนอังกฤษด้วยเกม Jeopardy  พบว่า เกม Jeopardy  ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการฟัง  พูด  อ่านเขียนภาษาอังกฤษได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยม  ผู้เรียนมีความพึงพอใจและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น  และได้กล่าวว่า  เกมมีคุณค่าต่อการเรียนการสอนได้ดังนี้
1.  เกมเป็นสื่อที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความคล่องและความสามารถรอบตัวสูง    ช่วยให้ผู้เล่นมีผลสัมฤทธิ์ได้อย่างกว้างขวาง ทั้งทางด้านพุทธิศึกษา และจริยศึกษา  และความสามารถด้านการวิเคราะห์  การสังเคราะห์และการประเมินค่า
2.  เกมจะช่วยให้ผู้เล่นพัฒนาพลังความคิดสร้างสรรค์ได้มาก
3.  เกมส่งเสริมความสามารถในการตัดสินใจ  การสื่อสาร  ความสัมพันธ์กับผู้อื่น  และเจตคติทางด้านความกระตือรือร้นที่จะฟังความเห็นผู้อื่น  ช่วยให้ผู้เรียนรู้จักแก้ปัญหา
4.  ข้อได้เปรียบสูงสุดของวิธีสอนโดยใช้เกม คือ ความสนุก  ทำให้นักศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด  โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาที่มีผลการเรียนไม่ค่อยดี
5.  เกมส่วนใหญ่มักจะใช้พื้นฐานทางวิชาการหลาย ๆ   ด้าน          ซึ่งทำให้ผู้เล่นต้องรู้จักบูรณาการความรู้และทักษะหลาย ๆ ด้านเข้าด้วยกัน
ทิศนา  แขมมณี  (2551 : 368 – 369)  ได้กล่าวว่า  วิธีสอนโดยใช้เกมมีข้อดีและข้อจำกัด  ดังนี้
ข้อดีของวิธีสอนโดยใช้เกม
1.  เป็นวิธีสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้สูง  ผู้เรียนได้รับความสนุกสนานและเกิดการเรียนรู้จากการเล่น
2.  เป็นวิธีสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้   โดยการเห็นประจักษ์แจ้งด้วยตนเอง   ทำให้การเรียนรู้นั้นมีความหมายและอยู่คงทน
3.  เป็นวิธีสอนที่ผู้สอนไม่เหนื่อยแรงมากขณะสอน  และผู้เรียนชอบ
ข้อจำกัดของวิธีการสอนโดยใช้เกม
1.  เป็นวิธีสอนที่ใช้เวลาและค่าใช้จ่ายมาก
2.  เป็นวิธีสอนที่ผู้สอนต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้างเกม
3.  เป็นวิธีสอนที่ต้องอาศัยการเตรียมการมาก
4.  เป็นวิธีสอนที่ผู้สอนต้องมีทักษะในการนำอภิปรายที่มีประสิทธิภาพ   จึงจะสามารถช่วยให้ผู้เรียนประมวลและสรุปการเรียนรู้ได้ตามวัตถุประสงค์



วิธีสอนแบบกรณีศึกษา (Case Based Learning)

วิธีสอนโดยใช้กรณีศึกษา (Case Study Method)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น